Pages

Thursday, August 6, 2020

เหตุระเบิด "เลบานอน" ตัวเร่งนำประเทศสู่รัฐล้มเหลว - ข่าวไทยพีบีเอส

selasartari.blogspot.com

ทั่วโลกจับตามองหลังเกิดเหตุระเบิดในกรุงเบรุตของเลบานอน ว่าเหตุใดจึงปล่อยให้แอมโมเนียมไนเตรท 2,750 ตันเก็บไว้อย่างไม่เหมาะสม จนนำไปสู่โศกนาฏกรรม ก่อนเกิดระเบิดไม่กี่วัน รมต.ต่างประเทศเลบานอนประกาศลาออกจากตำแหน่ง และเตือนว่าเลบานอนกำลังจะกลายเป็นรัฐล้มเหลว

วันนี้ (6 ส.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "เลบานอน" กำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจที่เลวร้ายที่สุด นับตั้งแต่สงครามกลางเมืองสิ้นสุดลงเมื่อ 30 ปีก่อน ที่ผ่านมาการเมืองในประเทศเต็มไปด้วยการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย แสวงหาอำนาจและประโยชน์ให้กับพรรคพวกของตัวเอง

ปลายปี 2562 ธนาคารโลกคาดการณ์เศรษฐกิจของเลบานอนว่าหากสถานการณ์ในประเทศยังเต็มไปด้วยความวุ่นวาย รัฐบาลไม่หาทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ชาวเลบานอนครึ่งหนึ่งของทั้งประเทศจะเผชิญกับความยากจนและอัตราการว่างงานจะสูงถึงร้อยละ 25 ซึ่งนี่คือการคาดการณ์ก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 และก่อนที่จะเกิดระเบิดในกรุงเบรุต ดังนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้อาจจะเลวร้ายกว่าตัวเลขคาดการณ์เอาไว้มาก

ปัจจุบันชาวเลบานอนกำลังเผชิญกับค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ ข้อมูลชี้ชัดว่าเมื่อเดือน พ.ค.2563 ราคาอาหารและเสื้อผ้าในเลบานอนเพิ่มสูงถึงร้อยละ 190 และ 172 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562

นอกจากนี้เมื่อเดือน ต.ค.2563 เลบานอนยังเผชิญปัญหาขาดแคลนสกุลเงินตราต่างประเทศ ทำให้เงินปอนด์เลบานอนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ โดยอัตราแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อ 1,500 ปอนด์เลบานอน แต่ในตลาดมืดพบว่าอัตราแลกเปลี่ยนสูงถึง 8,200 ปอนด์

ในขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ของเลบานอน ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาลดลงอย่างมาก โดยการคาดการณ์ของปี 2563 ติดลบอยู่ที่ร้อยละ 5 แต่นี่คือตัวเลขคาดการณ์ก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 และเหตุระเบิด ดังนั้นตัวเลขจริงๆ อาจจะเลวร้ายกว่าที่ประเมินไว้เช่นกัน

ทำไม..เลบานอนถึงเข้าใกล้ภาวะรัฐล้มเหลว

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า เป็นเพราะการเมืองที่เต็มไปด้วยการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ซึ่งแต่ละกลุ่มต่างมุ่งดูแลผลประโยชน์ของตัวเอง การเมืองของเลบานอนแบ่งแยกกันทั้งฝ่ายประธานาธิบดี ฝ่ายประธานสภาผู้แทนราษฏร และฝ่ายของนายกรัฐมนตรี โดยแยกไปตามกลุ่มศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ คือ ศาสนาคริสต์นิกายมาโรไนต์ ศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์และสุหนี่ ซึ่งการแบ่งอำนาจเป็นไปตามข้อตกลงเมื่อปี 2486 หรือเมื่อ 77 ปีก่อน นอกจากนี้ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร 128 ตำแหน่ง ยังแบ่งสรรอย่างเท่าเทียมระหว่างชาวคริสต์กับมุสลิมอีกด้วย

ความหลากหลายทำให้เลบานอนถูกต่างชาติใช้อิทธิพลชักจูงได้ง่าย อย่างเช่นอิหร่านที่สนับสนุนกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ในเลบานอน ซึ่งถูกมองว่าเป็นกลุ่มการเมืองและทหารที่มีอิทธิพลมากที่สุดในประเทศ หลังสงครามกลางเมืองที่กินเวลานานถึง 15 ปีสิ้นสุดลงในปี 2533 หรือ 30 ปีก่อน นักการเมืองแต่ละฝ่ายต่างก็รักษาอำนาจและผลประโยชน์ของตัวเองผ่านระบบอุปถัมภ์

เมื่อเดือน ต.ค.2562 เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ในเลบานอน เรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมืองและเศรษฐกิจ จนทำให้ ซาอัด อัล-ฮารีรี นายกรัฐมนตรี ต้องลาออก หลังต้านแรงกดดันไม่ไหวและลี้ภัยไปต่างประเทศ แต่ผู้นำคนใหม่ที่ขึ้นมาทำหน้าที่แทนก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาของประเทศได้

หากมองไปในอนาคตนับจากนี้ หนทางข้างหน้าของเลบานอนยังดูมืดมน หาทางออกไม่เจอ ตราบใดที่การเมืองในประเทศเป็นปัญหาหลัก แม้ว่าขณะนี้นี้เลบานอนจะได้รับเงินกู้จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ มาแล้ว 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3.1 แสนล้านบาท รวมถึงความช่วยเหลือจากนานาชาติที่กำลังทยอยเข้ามา แต่สิ่งที่ชาวเลบานอนกังวลคือ เงินและความช่วยเหลือเหล่านี้จะตกถึงมือประชาชนที่เดือดร้อนจริงหรือไม่ หรือจะตกไปอยู่กับฝ่ายการเมืองที่แสวงหาผลประโยชน์จากความเดือดร้อนของประชาชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ระเบิดกลางเมืองหลวงเลบานอน เสียชีวิต 50 คน เจ็บ 2,700 คน

แอมโมเนียมไนเตรท 2.7 พันตัน ปมระเบิดครั้งใหญ่กรุงเบรุต

ระเบิดเบรุต เสียชีวิต 135 เจ็บกว่า 4,000 คน เร่งหาผู้สูญหาย

ก.แรงงาน สั่งทูตดูแลแรงงานไทยในเลบานอน ยันไม่พบคนบาดเจ็บ

Let's block ads! (Why?)


August 06, 2020 at 08:21PM
https://ift.tt/3gCE4au

เหตุระเบิด "เลบานอน" ตัวเร่งนำประเทศสู่รัฐล้มเหลว - ข่าวไทยพีบีเอส
https://ift.tt/3e2ph87
Home To Blog

No comments:

Post a Comment