เจาะลึก 5G ฟื้นฟูประเทศ ภารกิจ AIS ผนึกพันธมิตรอุตสาหกรรม - ผู้จัดการออนไลน์

selasartari.blogspot.com


การลงมือทำและแสดงออกมาให้เห็นกลายเป็นวิธีการสื่อสารที่ดีที่สุดของ AIS ในยุค 5G ที่ไม่ใช่แค่ออกมาสื่อสารว่าพร้อมให้บริการเครือข่าย 5G แล้ว แต่ยังนำประโยชน์ของการมี 5G เข้าไปร่วมกับพันธมิตรในแต่ละอุตสาหกรรม ด้วยการใช้โทรคมนาคมเป็นพื้นฐานในการร่วมกันฟื้นฟูประเทศไทยฟ

ที่ผ่านมา AIS ย้ำเสมอว่าในการเติบโตเศรษฐกิจไทย AIS ไม่สามารถเติบโตไปเพียงรายเดียวได้ แต่ต้องจับมือกับพันธมิตรในทุกๆมิติเพื่อสร้างการเติบโตไปพร้อมๆกันซึ่งถ้าทุกส่วนเดินหน้าต่อไปได้สุดท้ายประโยชน์ทุกอย่างก็จะเกิดขึ้นกับผู้บริโภค

ดังนั้นในการประกาศวิสัยทัศน์ครั้งสำคัญของปีนี้เกี่ยวกับการลงทุน AIS 5G และการนำไปใช้งานพร้อมกับประกาศภารกิจ‘AIS 5G ร่วมแรงสู้ฟื้นฟูประเทศไทย’ร่วมกับพันธมิตรในครั้งนี้จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เนื่องจากถ้าประเทศไทยสามารถฟื้นฟูกลับมาได้เร็ว มีการนำดิจิทัลเข้ามาใช้งานโดยเฉพาะ 5G ที่ปัจจุบันไทยได้กลายเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปเรียบร้อยแล้วจากการเปิดให้บริการ 5G เชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็จะมีโอกาสที่จะแสดงศักยภาพของไทยให้ทั่วโลกได้เห็น

สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)หรือ AIS ระบุว่ายุคของ 5G ถือเป็นโอกาสสำคัญของประเทศเล็กๆ อย่างไทย ที่จะสามารถเอาชนะประเทศใหญ่ๆได้ถ้านำดิจิทัลมาใช้งานให้เกิดประโยชน์มากที่สุดรวมถึงดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศที่จะเกี่ยวเนื่องมายังการจ้างงานสร้างอาชีพรายได้เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในสังคมไทย

ทำให้ที่ผ่านมา AIS ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมพื้นฐานของประเทศเร่งลงทุนขยายโครงข่าย5Gให้ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน หลังจากได้รับใบอนุญาต และจะทยอยขยายโครงข่ายให้ครอบคลุมการใช้งานมากขึ้น โดยเฉพาะในจุดที่มีการใช้งานดาต้าหนาแน่น พร้อมกับเข้าไปร่วมทดสอบ กับภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งการแพทย์ การขนส่ง การผลิต ระบบรักษาความปลอดภัย สมาร์ทซิตี้

ตลอดจนการนำไปใช้งานทางด้านสาธารณสุขในช่วงโควิด-19 ที่แสดงให้เห็นศักยภาพที่แท้จริงของการนำ5G ไปใช้งานทั้งเรื่องของการดูแลรักษาผู้ป่วยภายในโรงพยาบาล ก่อให้เกิดการปรับใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์อย่างTelemedicine จนถึงการนำมาใช้งานร่วม กับหุ่นยนต์เพื่อคัดกรอง และเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโรคตามสถานที่ต่างๆ เป้าหมายของ AIS ภายในช่วงเดือนกรกฎาคม คือการวางโครงข่าย 5G ให้ครอบคลุมทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ รวมถึงภายในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งถือเป็นพื้นที่สำคัญที่จะแสดงให้เห็นประโยชน์ของการนำโครงข่าย 5G มาใช้งาน ทั้งภาคพื้นดิน ทะเล และทางอากาศ

พร้อมยกตัวอย่างการนำ 5G มาใช้งานในภาคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาคพื้นดิน อย่างการบริหารจัดการภายในนิคมอุตสาหกรรม ด้วยการนำเทคโนโลยี Smart Industrial มาใช้ในการควบคุมตรวจสอบ เครื่องจักร Smart Building Management สำหรับการบริหารจัดการพลังงานในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม เพื่อทำงานร่วมกับ IoT และ Smart Communication ทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ลดต้นทุนในการบริหารจัดการได้

ถัดมาในภาคพื้นน้ำ AIS ได้เข้าไปร่วมกับการท่าเทียบเรือขนส่งสินค้าแหลมฉบัง ในการนำเครือข่าย 5G เข้าไปใช้ในการควบคุมเครนยกตู้สินค้าได้จากระยะไกลเป็นที่แรกในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยของพนักงานรวมถึงการติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยทั้ง CCTV และ Security Control เพื่อปรับท่าเรือไทยให้กลายเป็น Smart Port รองรับเรือสินค้าจากทั่วทุกมุมโลก

สุดท้ายคือทางอากาศ โดยทาง AIS ร่วมมือกับท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง-พัทยา ในการนำ 5G ไปใช้เป็นโครงสร้างพื้นฐานในการพัฒนา Smart Airport ด้วยการนำเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้า (Facial Recognition) และตรวจจับวัตถุ (Object Detection) เข้าไปช่วยอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานสนามบินของผู้โดยสารให้น้อยลง

วิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) ให้ข้อมูลเสริมว่า Smart City คือเป้าหมายที่ประเทศไทยจะต้องไป และต้องไปพร้อมกันทั้งประเทศ เพื่อให้เรามีความสามารถที่จะแข่งขัน ดึงดูดการลงทุนมายังประเทศได้

“5G คือคำตอบที่จะเข้ามาช่วยสร้างการเติบโตให้ธุรกิจอย่างน้อย 3% และหากใช้อย่างมีประสิทธิภาพ คาดว่าจะสร้างการเติบโตได้ถึง 5% เพราะจะเข้ามาช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศไทยก้าวทันประเทศชั้นนำอย่างจีน เกาหลีใต้ หรือญี่ปุ่น ที่ได้นำ 5G มาเพิ่มมูลค่าไปแล้ว”

โดยนอกจากกลุ่มอมตะ แล้ว AIS ยังได้จับมือกับทั้ง สหพัฒนา อินเตอร์โฮลดิ้ง,ดับบลิวเอชเอ,กลุ่มกิจการค้าร่วมบีบีเอส ที่เป็นผู้ร่วมลงทุนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา เมืองการบินภาคตะวันออก และการท่าเรือแห่งประเทศไทย ที่จะร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีที่นำโครงข่าย 5G มาใช้งานภายในพื้นที่ EEC ด้วย

***สร้างประสบการณ์ให้ธุรกิจค้าปลีก

ประโยชน์ของ 5G ไม่ได้มีเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมการผลิตที่นำไปใช้ควบคุมเครื่องจักรเท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้งานในเรื่องที่ใกล้ตัวกับผู้บริโภคได้มากขึ้น อย่างธุรกิจรีเทล เพราะเมื่อพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป การเลือกซื้อสินค้าในยุคหลังจากโควิด-19 หลายๆ ภาคส่วนอาจจะไม่เหมือนเดิม

ดังนั้น ในมุมของผู้ประกอบการธุรกิจรีเทลอย่าง เซ็นทรัล รีเทล จึงเป็นอีกพันธมิตรของ AIS ที่จะนำนวัตกรรม 5G และดิจิทัลโซลูชันมาเปลี่ยนโฉมวงการค้าปลีก โดยเฉพาะการผสมผสานโลกออนไลน์เข้ากับออฟไลน์ เพื่อสร้างประสบการณ์ชอปปิ้งรูปแบบใหม่ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย

สำหรับความร่วมมือนี้ จะมีทั้งการนำเทคโนโลยีอย่าง Smart Mirror ที่เป็นกระจกอัจฉริยะ เข้ามาช่วยผู้บริโภคในการเลือกซื้อเสื้อผ้า ทำให้สามารถลองสินค้า เปลี่ยนสี เลือกไซส์ที่เหมาะสมได้แบบอัตโนมัติ ผ่านเครือข่าย 5G ตามด้วยการเก็บข้อมูลการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมาวิเคราะห์ภายใต้เทคโนโลยีอย่าง Advance Digital Signet ที่จะคอยเก็บข้อมูลความสนใจของลูกค้า และเลือกแสดงโฆษณาให้ตรงกับความต้องการส่วนบุคคล

ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ธุรกิจค้าปลีกและ การให้บริการเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เพราะ เป็นอุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานมากกว่า 2 ใน 3 ของการจ้างงานทั้งหมดในประเทศ ซึ่งการนำ AIS 5G เข้ามาช่วยสร้างประสบการณ์ ใหม่นี้ จะทำให้เซ็นทรัลกลายเป็นแพลตฟอร์มที่อยู่เคียงคู่กับผู้บริโภคทุกที่ทุกเวลา

***ยกระดับการท่องเที่ยว

อีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย คงหนีไม่พ้นเรื่องของการท่องเที่ยวซึ่งในหลายๆ ประเทศเริ่มมีการปรับนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อแนะนำการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ให้เกิดขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยีความจริงเสมือน (Virtual Reality : VR) มานำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

ประเทศไทย ในฐานะที่เป็นหนึ่งในประเทศที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ให้ความสนใจ จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ขึ้น เริ่มต้นจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะเริ่มนำเทคโนโลยี 5G VR เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการทำตลาด เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และวัฒนธรรมของไทย ซึ่งท้ายที่สุดจะช่วยกระจายรายได้ให้แก่ท้องถิ่นด้วย

ขณะเดียวกัน VR ยังเข้ามาช่วยเปิดโลกการเรียนรู้ให้แก่กลุ่มนักเรียน-นักศึกษา ด้วยการที่ AIS เข้าไปร่วมกับสถาบันส่งเสริมการสอน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ในการแปลงคอนเทนต์วิทยาศาสตร์ออกมาเป็นรูปแบบของVR รวมถึงพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศนำ VR มาใช้ในการแสดงเครื่องบินแต่ละรุ่นแบบเสมือนจริง

***5G ช่วยส่งเสริมความยั่งยืน

สุดท้ายคือเรื่องของการนำดิจิทัล มาใช้ในการพัฒนาโมเดลแห่งความยั่งยืน ซึ่งกลายเป็นเทรนด์ที่ธุรกิจทั่วโลกเริ่มตื่นตัวมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของการลดก๊าซคาร์บอนที่กลายเป็นประเด็นที่หลายประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญในช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์โควิด-19 เพื่อให้เห็นภาพการนำ 5G มาช่วยในเรื่องความยั่งยืนได้ชัดเจนมากขึ้น AIS จึงเข้าไปร่วมมือกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการร่วมศึกษาวิจัยเทคโนโลยี IoT ร่วมกับ 5G ภายในอุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปีบน พื้นที่กว่า 100 ไร่ที่ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต

ด้วยการนำ 5G เข้าไปผสมผสานกับ IoT ในการพัฒนาระบบขนส่ง ระบบรักษาความปลอดภัย การบริหารจัดการพลังงาน ทรัพ ยากรธรรมชาติ ทดสอบเทคโนโลยีเพื่อการเกษตรอย่างยั่งยืน

ทั้งหมดนี้สามารถต่อยอดไปสู่การใช้งานในชุมชนอื่นๆ ในประเทศไทยในอนาคตเพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนของคนไทย

Let's block ads! (Why?)

July 02, 2020 at 09:17AM
https://ift.tt/3inYpRW

เจาะลึก 5G ฟื้นฟูประเทศ ภารกิจ AIS ผนึกพันธมิตรอุตสาหกรรม - ผู้จัดการออนไลน์
https://ift.tt/3e2ph87
Home To Blog