Pages

Friday, July 10, 2020

คอลัมน์การเมือง - ไต้หวันภายใต้ทฤษฎี 1 ประเทศ 2 ระบบ - หนังสือพิมพ์แนวหน้า

selasartari.blogspot.com

หลังจากจีนได้ออกกฎหมายความมั่นคงซึ่งทั่วโลกเรียกขานว่าเป็นการพ้นสภาพจากความเป็นอาณานิคมของอังกฤษโดยสมบูรณ์ และทำให้ฮ่องกงรวมเข้ากับประเทศจีนเป็นหนึ่งประเทศอย่างสมบูรณ์ โดยยังเป็น2 ระบบ คือ ระบบสังคมนิยมแบบจีนกับแบบเศรษฐกิจเสรีของฮ่องกงที่ดำรงอยู่ในปัจจุบัน

ทำให้ขบวนการป่วนฮ่องกงที่หยั่งรากลึกลงในฮ่องกงมาเป็นเวลาหลายสิบปี ที่มุ่งหมายดึงต่างชาติเข้ามาปกครองฮ่องกงเหมือนอดีตต้องแตกกระสานซ่านเซ็นบ้างก็ถอนตัวจากการเป็นแกนนำ บ้างก็ถอนตัวจากการเคลื่อนไหว บ้างก็ออกตัวกับรัฐบาลจีนขอยุติบทบาทที่เคยทำมาแต่ก่อน และบ้างก็หลบหนีออกนอกประเทศไปพึ่งใบบุญของต่างประเทศที่บงการป่วนฮ่องกงมานานแล้ว


เพราะหลังจากกฎหมายดังกล่าวมีผลใช้บังคับ หน่วยงานด้านความมั่นคงของจีนก็ได้ปฏิบัติภารกิจในฮ่องกงให้เป็นไปตามกฎหมายดังกล่าว ซึ่งเป็นเรื่อง
ปกติของประเทศที่มีเอกราชอธิปไตยที่จะต้องดูแลรักษาเอกราช อธิปไตย บูรณภาพเหนือดินแดน ตลอดจนความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ซึ่งทุกประเทศทั่วโลกก็ปฏิบัติอย่างเดียวกัน

คงมีแต่บางประเทศที่เกี่ยวข้องกับการป่วนฮ่องกงหรือจ้องที่จะรุมทึ้งฮ่องกงแบบเดียวกับที่ 8 ประเทศเคยรุมทึ้งประเทศจีนออกเป็นเขตเช่าถึง 8 เขต มิหนำซ้ำยังดูถูกเหยียดหยามคนจีนถึงขนาดปักป้ายไว้ตามสวนสาธารณะ ว่าพื้นที่นั้นห้ามสุนัขและคนจีนเข้า

แต่ทว่าประเทศจีนในวันนี้ไม่ใช่ประเทศจีนในยุคปลายราชวงศ์ชิงอีกแล้ว เป็นประเทศจีนที่มีพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นพรรคนำ มีคณะกรรมการกลางและคณะกรรมการกรมการเมืองชุดที่ 19 ที่มีท่านประธานสี จิ้น ผิง เป็นผู้นำ เป็นประเทศจีนที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ และมีความเข้มแข็งเกรียงไกรทางแสนยานุภาพทางทหาร มีพันธมิตรที่มีความเข้มแข็งเกรียงไกร คือกลุ่มองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ซึ่งมีประชากรกว่าค่อนโลก และมีเสียงข้างมากในเวทีสหประชาชาติแล้ว

ภายใต้สภาพเช่นนั้น แม้บางประเทศจะเคียดแค้นขุ่นเคืองและไม่พอใจหรือกดดันประการใดๆ ก็ไร้ผล เพราะจีนไม่ยอมให้ใครมาข่มเหงบังคับ ยังคงเดินหน้าบังคับใช้กฎหมายเดิมนั้น ดังนั้นบางประเทศที่แทรกแซงป่วนประเทศจีนก็ได้แต่มองตากันปริบๆ และทำอะไรกันไม่ได้

ทำให้ชาวฮ่องกงทั่วโลกเห็นประจักษ์ว่าที่เคยหลงเชื่อและตั้งความหวังว่าจะมีต่างชาติมาคุ้มครองปกป้องดูแลนั้นไม่มีฐานะทางความเป็นจริงแม้แต่น้อย เพราะแต่ละประเทศก็ต่างก็มีผลประโยชน์ของตนที่จะดูแล เรื่องอะไรจะเอาผลประโยชน์ของประเทศตนไปแลกกับคนที่ทรยศชาติของตนเองเพียงไม่กี่คน

และเมื่อเป็นเช่นนี้การขับเคลื่อนให้ฮ่องกงรวมกับประเทศจีน ตามทฤษฎี 1 ประเทศ 2 ระบบ ก็คงจะลุล่วงในไม่ช้า ความศานติ ความเจริญรุ่งเรือง และความมั่งคั่งก็จะฟื้นขึ้นในดินแดนฮ่องกง และเมื่อเชื่อมโยงเข้ากับมาเก๊า กว่างโจว เซินเจิ้น ตงก่วน ก็จะกลายเป็นเศรษฐกิจใหญ่ที่มีขนาดใกล้เคียงกับอาเซียน และเมื่อเขตเศรษฐกิจนี้เชื่อมโยงเข้ากับการพัฒนาไหหลำ และ เซียะเหมินแล้ว ก็จะกลายเป็นสามเหลี่ยมเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก

โลกจะได้เห็นความล้ำเลิศของทฤษฎี 1 ประเทศ 2 ระบบ และการตัดสินใจอันถูกต้องของพรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งมีประธานสี จิ้น ผิง เป็นผู้นำ และเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์สมัยที่ 19

สภาพดังกล่าวนั้นจะทำให้ชาวไต้หวันต้องจับตามองอย่างไม่กะพริบตา และสถานการณ์ที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปจะเอื้อต่อการรวมชาติไต้หวันกลับสู่มาตุภูมิแผ่นดินจีนเหมือนแต่ก่อน

เพราะไต้หวันในวันนี้ก็มีสภาพไม่ต่างกับดินแดนอันเป็นกึ่งเมืองขึ้นของต่างชาติ ทำมาหาได้เท่าใดก็ต้องเจียดเงินไปซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากต่างชาติ แทนที่
ผลประโยชน์ทั้งหลายเหล่านั้นจะตกได้แก่ชาวไต้หวันและแผ่นดินจีน

อันไต้หวันนั้นประกอบด้วย ประชากร 3 จำพวก คือ คนจีนทั้งที่มาจากแผ่นดินใหญ่ และที่อาศัยอยู่แต่เดิมพวกหนึ่ง พวกชนกลุ่มน้อยท้องถิ่นไต้หวันอีกพวกหนึ่ง และพวกเชื้อสายญี่ปุ่นที่มาฝั่งตัวหยั่งรากลึกในไต้หวันตั้งแต่ยุคที่ยึดครองไต้หวันนับร้อยปีอีกพวกหนึ่ง

ชาวไต้หวันทั้งสามพวกนี้บ้างยังถือว่าเป็นคนจีนและต้องรวมชาติกับจีน บ้างก็หวังให้ต่างชาติมาคุ้มครองป้องกันโดยปกครองกันเอง และบ้างก็หวังให้ต่างชาติเข้ามามีสิทธิ์มีส่วนเป็นหุ้นส่วนในการปกครองไต้หวัน

นั่นเป็นสภาพสังคมและการเมืองของไต้หวันที่ย่อมผันแปรไปตามสถานการณ์ จึงเป็นสภาพที่เอื้อต่อการรวมชาติมากกว่าทุกระยะที่ผ่านมา

ไต้หวันเป็นดินแดนที่เป็นเกาะและขณะนี้ก็ตกอยู่ในท่ามกลางวงล้อมแห่งแสนยานุภาพของจีน ที่ถ้าหากเป็นหมากรุกก็อาจกล่าวได้ว่าใกล้เวลาจะมีการรุกจนหรือเช็คเมทเต็มทีแล้ว

ในทางเศรษฐกิจ ไต้หวันมีโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่เป็นเส้นเลือดใหญ่เพียง 2 เส้น คือการส่งออกสินค้าไอทีและสินค้าอุตสาหกรรมอื่น ซึ่งเป็นรากฐานรายได้หลักของไต้หวัน และชาวไต้หวันทั้งมวล มีเพียงส่วนน้อยที่ไม่เป็นนัยสำคัญ คือ ภาคการท่องเที่ยวและการลงทุน ซึ่งจิ๊บจ๊อยและน้อยลงทุกวัน

สำหรับภาคส่งออกทั้งหมดชาวไต้หวันได้ย้ายฐานการลงทุนไปลงทุนในประเทศจีนมานานแล้ว ไม่ว่าโรงงานผลิตสินค้าจำพวกไอที สินค้าจำพวกอุตสาหกรรมอื่น โดยได้รับการสนับสนุนจากจีน และมีผลประโยชน์ร่วมกันกับจีนมากกว่าใคร

และบัดนี้เส้นเลือดใหญ่ทางเศรษฐกิจของไต้หวันก็ได้มาถึงจุดตะวันตกดินแล้ว จำเป็นต้องพึ่งพาประเทศจีนมากขึ้นโดยลำดับ

เหล่านี้คือเงื่อนไขการรวมชาติไต้หวันกลับสู่อ้อมอกแห่งมาตุภูมิจีน ภายใต้ทฤษฎี 1 ประเทศ 2 ระบบในสภาพที่สอดคล้องกับความเป็นจริงของไต้หวัน และมีความเป็นไปได้อย่างยิ่ง ที่จีนอาจต้องตรากฎหมายฉบับหนึ่งทำนองเดียวกันกับกฎหมายความมั่นคงที่เพิ่งประกาศใช้ โดยกำหนดลักษณะพิเศษที่สอดคล้องกับไต้หวันโดยเฉพาะ

คำพยากรณ์ของคอลัมน์นี้ในช่วงหลังประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีนสมัยที่ 18 ที่ว่าไต้หวันจะรวมชาติกับจีนในยุคสมัยประธานสี จิ้น ผิง กำลังจะปรากฏโฉมให้เห็นแล้ว

Let's block ads! (Why?)


July 11, 2020 at 02:00AM
https://ift.tt/3gP6ddM

คอลัมน์การเมือง - ไต้หวันภายใต้ทฤษฎี 1 ประเทศ 2 ระบบ - หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://ift.tt/3e2ph87
Home To Blog

No comments:

Post a Comment