สถานการณ์ต่างประเทศยังน่าห่วง! สธ.ขอเวลาศึกษา "Travel Bubble" ก่อนนำมาใช้
วันที่ 17 มิ.ย. 2563 เวลา 20:51 น.
กรมควบคุมโรคเผยอยู่ระหว่างศึกษาการเปิด "Travel Bubble" ในต่างประเทศมาปรับใช้กับไทย ชี้ในไทยสถานการณ์ดีขึ้นแต่ต่างประเทศยังน่ากังวล
นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ประเทศไทยมีการติดตามบทเรียนจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในต่างประเทศอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการทยอยผ่อนปรนมาตรการต่าง ๆ มา 4 ระยะแล้ว ก็เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์ต่างประเทศ รวมถึงกรณี Travel Bubble ที่เป็นการท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศที่สามารถควบคุมโควิด-19 ได้ดี ซึ่งกำลังเรียนรู้ประสบการณ์จากต่างประเทศและนำมาปรับใช้กับประเทศไทย ยกตัวอย่างเช่น กรณีออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ที่ตกลงกันแล้วทำแล้ว ทำอย่างไรถึงปลอดภัย
"เราเองถ้าจะส่งเสริมการท่องเที่ยวเพราะท่องเที่ยวเป็นรายได้ที่สำคัญของประเทศ จะทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาแล้วพอใจ เราเองคนในประเทศก็ไม่เสี่ยงมาก ทำอย่างไรให้ธุรกิจเหล่านี้กลับฟื้นคืนมาสร้างรายได้ให้กับประเทศเป็นเรื่องที่สำคัญ การที่เราตรวจเชื้อหรือให้ประเทศต้นทางตรวจเชื้อ เพื่อการันตีว่านักท่องเที่ยวที่เข้ามาต้องตรวจเชื้อ ไม่ว่าจะมีโรคหรือไม่มี ก็ต้องตรวจเชื้อก่อน การกักกันโรค จำเป็นหรือไม่ จะมีวิธีไหนที่นักท่องเที่ยวที่มาในกลุ่มแบบ Travel Bubble ไม่ต้องกักตัว 14 วัน อยู่ให้สั้นลงได้มั้ย กำลังคิดกันอยู่ ใช้ประสบการณ์ต่างประเทศมาปรับใช้ เพื่อทำให้เรามีนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ และไม่สร้างความเสี่ยงให้กับประเทศ"นพ.อนุพงศ์ กล่าว
นพ.อนุพงศ์ กล่าวอีกว่าสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ของประเทศไทยขณะนี้มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่สิ่งที่ต้องกังวลขณะนี้ คือ อเมริกาใต้ ยังน่าเป็นห่วง เอเชียใต้ อินเดีย บังคลาเทศ ปากีสถาน ก็ไม่ได้ดี
ขณะที่ตะวันออกกลาง ซาอุดิอาระเบีย กาตาร์ อียิปต์ ยังมีคนไทยอยู่ที่ประเทศทางตะวันออกกลาง และประสงค์จะกลับมาประเทศไทย ขอให้ไปแจ้งสถานทูตหรือกงสุล เพื่อลงทะเบียน พร้อมให้คำแนะนำการปฎิบัติตัว ที่ผ่านมาจำนวนเที่ยวบินจากตะวันออกกลางอาจจะน้อย ขณะที่ความต้องการกลับมาสูง ขณะนี้ทางศูนย์บริหารสถานการ์โควิด-19 (ศบค.) ทราบแล้ว จะมีการจัดการเพิ่มเที่ยวบินให้
June 17, 2020 at 08:58PM
https://ift.tt/2AJGDYu
สถานการณ์ต่างประเทศยังน่าห่วง! สธ.ขอเวลาศึกษา "Travel Bubble" ก่อนนำมาใช้ - โพสต์ทูเดย์
https://ift.tt/3e2ph87
Home To Blog
No comments:
Post a Comment