การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในไทยดีขึ้นต่อเนื่อง เดินหน้าสู่มาตรการคลายล็อกดาวน์ เฟสที่ 4 พร้อมยกเลิกเคอร์ฟิว และเตรียมเปิดประเทศ ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในรูปแบบ “Travel Bubble” เป็นการท่องเที่ยวอย่างจำกัด อย่างที่หลายประเทศนำแนวคิดนี้ไปใช้ ในการวางแผนจับคู่ประเทศ หรือจับกลุ่มประเทศ เปิดน่านฟ้าพรมแดนให้มีการเดินทางระหว่างประเทศ
- เงื่อนไขในการจับคู่ประเทศ เปิดรับนักท่องเที่ยวเดินทางระหว่าง 2 ประเทศ อยู่ภายใต้ข้อตกลงต้องเป็นประเทศไม่มีผู้ติดเชื้อแล้ว หรือมีจำนวนผู้ติดเชื้อใกล้เคียงกัน และที่สำคัญต้องสามารถจัดการการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าๆ กัน ภายใต้ความเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน
- นักท่องเที่ยวภายใต้ข้อตกลง “Travel Bubble” จะไม่ถูกกักตัว มีการกำหนดจัดการจำนวนคนที่เดินทางเข้ามา และขอวีซ่าแบบพิเศษ โดยต้องตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อความมั่นใจก่อนออกนอกประเทศต้นทาง และตรวจอีกครั้งเมื่อเดินทางเข้าสู่ประเทศปลายทาง
- ที่ผ่านมาออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ได้เริ่มการท่องเที่ยวแบบ “Travel Bubble” และอีกหลายๆ ประเทศ คาดว่าญี่ปุ่น รวมทั้งจีน จะใช้รูปแบบเดียวกัน ส่วนไทย ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์ COVID-19 หรือ ศบค. ได้เห็นชอบในหลักการแล้ว ก่อนเสนอ ศบค.ชุดเฉพาะกิจที่มีเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นประธาน พิจารณาอีกครั้งในวันที่ 17 มิ.ย.นี้
- ล่าสุดดูเหมือนว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเห็นด้วยในเรื่องนี้ พร้อมกับการเน้นย้ำเรื่องมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม และต้องสามารถควบคุมได้โดยไม่มีปัญหา ซึ่งกระทรวงที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างศึกษารายละเอียด ทำให้การประชุมครม.วันที่ 16 มิ.ย.ไม่มีการพิจารณาในเรื่องนี้
- เบื้องต้นไทยได้โฟกัสนักท่องเที่ยว 2 กลุ่มหลัก 1. กลุ่มนักธุรกิจ ต้องประสานกับนักธุรกิจหรือคู่ค้าในต่างประเทศ และมีความจำเป็นต้องเดินทางเข้ามาไทย และ 2. กลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาตรวจรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่องในไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำของโรงพยาบาลต่างๆ คาดว่าจะมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาประมาณวันละ 1,000 คน
“ชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร” ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวกับ “ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์” ว่า เห็นด้วยกับ “Travel Bubble” ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวสามารถลืมตาอ้าปากได้บ้าง หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด จนไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ อีกทั้งยังมีผู้ประกอบการจำนวนมากยังไม่สามารถเข้าถึงการขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือซอฟต์โลน ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการ SME ซึ่งมีปัญหาสภาพคล่องจนหมดตัว โดยทางรัฐบาลต้องให้ใบรับรองวงเงิน รวมถึงขณะนี้ทางบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ออกมาระบุว่าขณะนี้เงินหมดแล้ว กำลังพยายามหาเงินเพิ่มอีก 3 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตาม คาดว่าไทยจะมีการเจรจาจับคู่ประเทศที่ปลอดเชื้อในเดือนก.ค. เพื่อให้มีผลในกลางเดือน ส.ค.นี้ในการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไทย ซึ่งต้องมีเงื่อนไขในการคุมเข้มการแพร่ระบาดในทิศทางเดียวกัน นอกจากใบรับรองแแพทย์ก่อนเดินทางเข้าประเทศ และต้องมีการตรวจหาเชื้อเป็นระยะขณะอยู่ในไทย โดยเฉพาะการเดินทางข้ามจังหวัด เพื่อความมั่นใจว่าจะไม่มีการแพร่ระบาดรอบ 2
นอกจากนี้ ล่าสุดที่ประชุมครม.ได้เห็นชอบมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว ซึ่งจะมาช่วยธุรกิจกิจท่องเที่ยว มองว่าการสนับสนุนค่าเดินทางท่องเที่ยวของอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล รวม 1.2 ล้านคน ไม่เกินคนละ 2,000 บาทต่อคน นั้นไม่เพียงพอ และการสนับสนุนค่าโรงแรมที่พักให้กับประชาชนที่ท่องเที่ยวในอัตราร้อยละ 40 ของค่าห้องพัก จะไม่ถึงผู้ประกอบการ SME โดยตรง.
อ่านเพิ่มเติม...
June 16, 2020 at 07:52PM
https://ift.tt/37xMOuw
“Travel Bubble” จับคู่ประเทศ ความหวังกระตุ้นท่องเที่ยวไทย กู้วิกฤติโควิด - ไทยรัฐ
https://ift.tt/3e2ph87
Home To Blog
No comments:
Post a Comment